เนื้อหมูส่วนไหนนุ่ม ทำความรู้จักเนื้อหมูแต่ละส่วนก่อนซื้อ

เนื้อหมูแต่ละส่วนมีความแตกต่างกันอย่างไร ?
เนื้อหมูส่วนไหนนุ่ม, หมูส่วนไหนนุ่ม, ส่วนไหนของหมูนุ่มที่สุด, เนื้อหมูส่วนไหนนุ่มที่สุด เป็นคำถามยอดฮิตที่เจอได้บ่อยเวลาไปจ่ายตลาด ซื้อเนื้อสัตว์จากตลาดสดออนไลน์ หรือแม้กระทั่งเวลาไปทานอาหารที่ร้านชาบู หลายคนอาจกำลังเกิดข้อสงสัยว่าเนื้อหมูแต่ละส่วนไม่เหมือนกันเหรอ ทำไมถึงต้องตั้งคำถามว่าเนื้อหมูส่วนไหนนุ่มที่สุด, ส่วนไหนของหมูนุ่มที่สุด วันนี้เรามาดูกันว่าเนื้อหมูแต่ละส่วนมีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วเนื้อหมูส่วนไหนนุ่มที่สุดกันแน่
-
เนื้อหมูส่วนสันใน - หากต้องตอบคำถามว่าเนื้อหมูส่วนไหนนุ่ม, หมูส่วนไหนนุ่ม, ส่วนไหนของหมูนุ่มที่สุด, เนื้อหมูส่วนไหนนุ่มที่สุด เนื้อหมูส่วนสันในคือคำตอบ เป็นเนื้อหมูส่วนที่เหมาะสำหรับการนำไปทำสเต๊กหมู หมูทอด หรือเมนูที่ต้องการเนื้อหมูที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม
-
เนื้อหมูส่วนสันนอก - หากถามว่าเนื้อหมูส่วนไหนนุ่มที่สุด สันนอกหมูอาจไม่ใช่คำตอบแรก แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นเนื้อหมูส่วนไหนนุ่ม แน่นอนว่าเนื้อหมูส่วนสันนอกจะเป็นหนึ่งในคำตอบแน่นอน เรื่องจากเป็นส่วนของเนื้อหมูที่มีไขมันแทรกเล็กน้อย ทำให้เนื้อนุ่มและมีรสชาติอร่อยจากมันหมู เหมาะสำหรับการนำไปทำสเต๊กหมูและหมูย่าง
-
เนื้อหมูส่วนคอหมู - คอหมูอาจไม่ใช่ส่วนที่เหมาะสำหรับการตอบคำถามว่าส่วนไหนของหมูนุ่มที่สุด เพราะส่วนคอหมูเป็นส่วนที่มีไขมันแทรกค่อนข้างเยอะ รสชาติมีความหวานมัน อาจมีความนุ่มและเหนียวสลับกันไปตามปริมาณเนื้อและไขมันในแต่ละชิ้น เมนูยอดนิยมที่เรียกได้ว่าเป็นเมนูโปรดในใจของใครหลายคนจากเนื้อหมูส่วนนี้ คือ คอหมูย่างหรือน้ำตกคอหมูย่าง
-
เนื้อหมูสามชั้น - เนื้อหมูสามชั้นเป็นเนื้อหมูที่มีมันและเนื้อสลับกันในแต่ละชั้น หลายคนมักจะชอบเนื้อหมูสามชั้นมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีความเหนียวนุ่มของเนื้อหมูและความนัวของไขมันหมูที่ผสมกันอย่างลงตัว นิยมใช้ทำหมูกรอบ หมูห่อใบตอง และนำไปสไลด์ในชาบู
-
เนื้อหมูส่วนสะโพก - หากมีคนถามว่าเนื้อหมูส่วนไหนนุ่มที่สุด ต้องบอกเลยว่าไม่มีทางที่เนื้อหมูส่วนสะโพกจะเป็นหนึ่งในคำตอบ เนื่องจากเนื้อหมูส่วนสะโพกจะมีความเหนียวมากกว่าส่วนอื่น ๆ จึงนิยมนำไปทำเมนูหมูตุ๋น ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเคี่ยวเพื่อให้เนื้อหมูมีความนุ่มมากขึ้นก่อนทาน
-
เนื้อหมูส่วนขาหมู - เนื้อหมูส่วนขาหมูไม่ใช่เนื้อหมูที่มีความนิ่มมากนัก แต่นิยมนำไปทำเมนูขาหมูที่ต้องนำไปทอดก่อนที่จะต้ม เพื่อรักษาความชุ่มฉ่ำของเนื้อหมูเอาไว้ไม่ให้แห้งจนเหนียว
-
เนื้อหมูส่วนซี่โครง - เนื้อหมูส่วนนี้มีทั้งเนื้อและกระดูกอยู่รวมกัน เหมาะสำหรับการนำไปทำเมนูซี่โครงหมู หมูอบ หรือนำไปเป็นส่วนประกอบในการต้มน้ำซุปให้มีรสชาติและกลิ่นที่หอมหวาน
การเลือกเนื้อหมูสำหรับทำอาหาร มีขั้นตอนการเลือกอย่างไร ?
การเลือกเซื้อเนื้อหมูสำหรับทำอาหารแล้วนอกจากการตั้งคำถามว่าเนื้อหมูส่วนไหนนุ่ม, หมูส่วนไหนนุ่ม, ส่วนไหนของหมูนุ่มที่สุด, เนื้อหมูส่วนไหนนุ่มที่สุด ยังสามารถพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ เพื่อให้ได้เนื้อหมูที่มีความเหมาะสมสำหรับเมนูอาหารที่ต้องการทำมากที่สุด โดยสิ่งที่ควรพิจารณาในส่วนของเนื้อหมูมีดังนี้
-
สีของเนื้อหมู - เนื้อหมูที่ดีควรมีสีชมพูอ่อน ๆ ไม่เข้มและซีดมากจนเกินไป หากเนื้อหมูมีสีแดงสดมากจนผิดปกติ สามารถสันนิษฐานได้ว่ามีการใส่สารเร่งเนื้อแดงลงไปในเนื้อหมู
-
กลิ่นของเนื้อหมู - เนื้อหมูที่มีความสดใหม่จะมีกลิ่นเฉพาะตัวของเนื้อโดยเฉพาะ ต้องไม่เหม็นคาวและไม่มีกลิ่นปิดปกติตีขึ้นจมูก
-
เนื้อสัมผัสของเนื้อหมู - เนื้อหมูที่มีความสดใหม่จะมีความนุ่ม เมื่อกดหรือจิ้มลงไปแล้วจะสามารถคืนตัวได้ดี ไม่เป็นรอยบุ๋มตรงบริเวณที่กด
-
ไขมันของเนื้อหมู - ไขมันของเนื้อหมูที่มีคุณภาพและสดใหม่ ควรมีสีขาว ไม่เหลือง และไม่มีกลิ่นหืน
-
รอยช้ำของเนื้อหมู - เนื้อหมูที่มีความสดใหม่จะต้องไม่มีรอยช้ำ รอยเขียว และรอยด่างตามชิ้นเนื้อ
-
พยาธิ - เนื้อหมูถือเป็นเนื้อสัตว์ที่มีโอกาสพบพยาธิได้หลากหลายชนิด ก่อนตัดสินใจซื้อจึงต้องสังเกตว่าบริเวณเนื้อหมูมีจุดขาว ๆ หรือเม็ดสีขาวเล็ก ๆ ปะปนอยู่หรือไม่
เคล็ดลับที่ควรพิจารณาเกี่ยวกับปัจจัยอื่น ๆ ในการเลือกซื้อเนื้อหมู
สำหรับการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ในการเลือกซื้อเนื้อหมูนั้น นอกจากการพิจารณาโดยตรงที่เนื้อหมูแล้วยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีความสำคัญและส่งผลต่อคุณภาพของเนื้อหมูที่ได้ทำการเลือกซื้อมา ได้แก่
-
พิจารณาร้านค้า - การเลือกซื้อเนื้อหมูและของสดอื่น ๆ ควรพิจารณาเลือกร้านค้าหรือตลาดสดออนไลน์ที่มีการจัดการที่ดี สะอาด มีมาตรฐาน
-
ตรวจสอบวันหมดอายุ - หากเป็นการเลือกซื้อเนื้อหมูจากร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้า จะมีวันหมดอายุแจ้งไว้บริเวณแพคเกจจิ้ง ก่อนการตัดสินใจซื้อจึงต้องพิจารณาให้ดีว่ามีการทำอาหารวันไหน
-
ปริมาณการซื้อ - การซื้อเนื้อหมูหรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ที่ตลาดสด มักจะได้ส่วนลดในกรณีที่ซื้อปริมาณมาก ส่งผลให้เกิดโอกาสเนื้อหมูเน่าเสียได้หากนำไปทำอาหารไม่ทัน จึงต้องมีการคำนวณปริมาณและจำนวนวันที่ต้องการทำอาหารก่อนเลือกซื้อ
-
การเก็บรักษา - วิธีการเก็บรักษาเนื้อหมู คือ นำเนื้อหมูมาล้างให้สะอาดแล้วซับให้แห้ง จากนั้นนำไปใส่ในถุงซิปล็อคหรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด สามารถเก็บในช่องธรรมดาได้ 3-5 วัน และเก็บในช่องแช่แข็งได้นาน 4-6 เดือน